วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2552

ลืมแล้วน้ำมันแพง


ประเทศไทย กับ พลัง งาน ทดแทน
กล่าวถึง พลังงาน .”ตอนนี้น้ำมันถูกแล้ว จะพักกันก่อนดีไหม ประเทศไทย พอสบายก็ลืมทุกข์”
พลังงานเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากมนุษย์ได้ทำการปฏิวัติทางด้านอุตสาหกรรมขึ้นในศัตวรรตที่ ๒๐ ทำให้เกิดนวัตกรรม การบริโภค นิยมในเวลา ต่อมา ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการผลิตก็คือ พลังงาน ตั้งแต่ ถ่านหิน ที่ใช้ผลิด กระแสไฟฟ้า หรือ การใช้เพื่อเป็นพลังงานสำหรับการเดินทางและการขนส่งปัจัยการผลิตต่างๆ จนกระทั้ง กลายเป็นน้ำมัน ในปัจจุบันนิยม สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจาก สิ่งที่เป็นธรรมชาติ ที่เกิดจากการ สะสมเกาะเก็บ มานับบล้านๆปี ซึ่งอาจจะต้องหมดไปในไม่ช้านี้ สิ่งที่สำคัญที่จะต้องนำมาขบคิดก็คือ พลังงานที่จะนำมาทดแทน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย ที่ทุกๆประเทศต่างระดม พลังความคิดกัน ขนานใหญ่ ว่าจะใช้อะไรมาเป็นสื่งทดแทนและเป็นสื่งที่ไม่ก่อให้เกิดภาวะมลพิษมากที่สุด ซึ่งต่อมาก็ได้มีการใช้ วิทยาการทางด้านวิทยาศาสตร์เขาร่วมคิด จนพวกเราเห็นจนชินตา ว่าสามารถใช้วัตถุดิบ จากธรรมชาติมาเป็นแหล่งพลังงาน เช่น เอทานอน จาก พืช ดังมี อ้อย เป็นต้น หรือ พลังงานไฟฟ้า จากแสงอาทิตย์ หรือแม้กระทั้งน้ำ แต่ทำไม่เราทราบกันมาตั้งนานว่าเราสามารถทำได้ แต่ไม่มีประเทศใด ที่ทุ่มเท อย่างจริงจัง ที่จะทำให้สิ่งที่เป็นผลังงานเหล่านี้ เกิดขึ้น และใช้ประโยชน์อย่างเต็มรูปแบบที่เห็นการผลิตที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดคงไม่พ้นประเทศ บราซิล ที่ใช้พลังงานทดแทน จากผลผลิตทางการเกษตร ที่ยากจะให้ประเทศเล็กๆกระทำตามได้ โดยแต่ละประเทศต่างใช้ความคิดที่จะลดการนำเข้าน้ำมัน หรือแม้แต่การ ยอมให้เหล่าประเทศผู้ผลิตน้ำมัน เอาเปรียบ อยู่อย่างเดี่ยว โดยการขึ้นราคาน้ำมัน ขูดเลือดชาวโลกมาโดยตลอดซึ่งปัจจุบันหน้าเลือดมากยิ่งขี้น โดยทาง สหประชาชาติเองซึ่ง ทำตัวเป็นศาลของโลกก็ไม่มีปัญญาพอที่จะห้ามประเทศเหล่านี้ไม่ให้ขึ้นราคาโดยความไม่เป็นธรรม ซึ่งเกิดจากสาเหตุใดก็สุดที่จะคาดเดาได้
ประเทศไทยก็เป็นประเทศที่มีผลผลิตทางเกษตรกรรมเพื่อการส่งออกและบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก การแก้ไขปัญหา ในเรื่องพลังงานนั้นเรา สามารถจะกระทำได้ ในหลายรูปแบบ โดย นำเอาแบบ อย่างประเทศอื่น มาเป็นต้นแบบ ( ลอกการบ้าน หมายเหตุ คิดเองไม่ใช้คิดไม่ได้แต่ไม่กล้าคิด) มันสมอง ของประเทศไทย หลังไหล ไปประเทศอื่นหมด เป็นเพราะอะไรพวกท่านก็คงทราบๆกันดี เหล่านักการเมือง ที่มีมันสมองในด้านการโกงกินชั้นเลิศและหน้าตา ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คงหาทางแก้ปัญหานี้อย่าง ลงตัวได้ ยากพอสมควร (เพราะอาจจะแบ่งปัญหาหรือ อาจเป็น ตัณหา เหล่านี้กันไม่ลงตัวก็เป็นได้) ประเทศไทยทั้งประเทศ ในไม่เกิน ห้าปี คงจะมีอาการคล้ายคนเป็น อัมพาต ทั้งส่วนบนตั้งแต่ สมอง จน อวัยวะส่วนต่างๆ ซึ่งพวกท่านทั้งหลายก็คงเห็นว่าใน ปัจจุบัน ประเทศไทย ก็คล้ายกับ คนเป็น อัมพฤกษ์ไปแล้วทำอะไรก็ไม่เต็มแรง เต็มเม็ดเต็มหน่วย สมอง ก็เหลือ ครึ่งเดียว ไม่รู้อีกครึ่ง ใครเอาไปคิดแทนแล้ว หรือ อาจเป็นอุจระขึ้นไปแทนที่ก็อาจเป็นได้ อันกลไก ราคาน้ำมันก็พกผันกันเหลือที่จะสามารถคำนวณได้ไม่รู้อะไรต่อมิอะไร ให้เป็นส่วนแบ่งกันมากมาย จนชาวบ้านไม่อยากเอามาคิดกันให้ปวดหัว แค่คิดที่จะมีชีวิตให้ประทังไปวันๆ ก็ยากกันอยู่แล้ว ผู้ซึ่งทำหน้าที่คิดก็คิดกันไม่ค่อยจะออก จนต้องให้ประเทศอื่นเขาคิดให้ เขาว่าอย่างไรก็ว่ากันไป ก็มันคือ (กลไก ของตลาดไง)
ประเทศไทย เราลองมาคิดดูว่า เราจะอยู่ได้หรือไม่โดยการไม่ต้องนำเข้าน้ำมัน ถ้าเราคิดกันเล่นๆว่าโดยให้ทุกๆอำเภอ มีโรงงานผลิด ไบโอดีเซล และ เอทานอน อย่าง ละ หนึ่งโรงเป็นอย่างน้อย โดยแรกเริ่มให้รัฐจัดตั้งโรงงานและจัดให้มีเจ้าหน้าที่ประจำสถานี จัดการควบคุม คุณภาพ และ ทำการวิจัย พืชที่จะให้พลังงานมากที่สุดในพี้นที่ ว่าจะต้องใช้ปริมาณ วัตถุดิบอย่างไร เท่าไร ถึงจะให้เพียงพอต่อความต้องการคน คนในพื้นที่ มากที่สุด และเป็นที่ที่ต้องให้ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบ โดยสามารถกระจาย ผลผลิตไปได้อย่างทั่วถึง โดยเกษตรกรขายผลผลิตให้กับทาง โรงงาน ที่มีลักษณะสหกรณ์ ทุกๆคน สามารถเขาร่วมเป็นสมาชิกในองค์กรได้ ขายได้กำไร ก็แบ่งกัน เงินทอง ก็อยู่กันในพื้นที่ โดยเมื่อแต่ละพื้นที่เริ่ม มีกำไรจากการผลิตแล้ว รัฐจึงเริ่มดำเนินการเก็บภาษี ในรูปแบบที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ชาวไร่ชาวนาจะได้ผลประโยชน์ จากการสร้างงาน สร้างอาชีพ เป็นเพิ่มราคาให้ผลผลิต ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งไม่ต้องคิดอะไรให้มากเรื่อง ท่านทั้งหลายคงจะเห็น ตัวอย่าง จากร้านเก็บเศษเหล็ก หรือ ร้านรับซื้อ ของเก่า ซึ่งก็มีลักษณะการ จัดการที่คล้ายกัน ในขั้นตอนสุดท้าย ก็จะได้ โลหะ ทีหลอมแล้ว รีดเป็นโลหะแผ่นที่จะนำมาใช้ทำประโยชน์ได้อีกนั้นเอง สิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่เราไม่มีความสามารถหรือทำไม่ได้ แต่แท้จริงอยู่ที่ความจริงใจที่ต้องการแก้ปัญหามากกว่า หรือฝ่ายผู้ใหญ่ภายในบ้าน ที่ชื่อว่าประเทศไทยหลังนี้ มีความนัย ที่ไม่สามารถจะแก้ปัญหาเหล่าได้ โดยมีปัจจัยต่างๆ จากหลายมุ่ง หลายม่าน เขามาบังความคิด ทำให้หูมืดตามัว จนไม่สามารถ ที่จะแก้ปัญหาต่างๆ แม้กระทั้งการริเริ่มก็ยังคลุมเครือ
ถ้าจะทำกันอย่างจริงจังให้ภาครัฐดำเนินการทดสอบจัดหารถยนต์ของภาคราชการที่จะมีการจัดหาใหม่ โดยให้ดำเนินการออกกฎระเบียบที่รุนแรงและเข้มกว่าเดิมในการจัดหารถยนต์ไว้ใช้ภายในประเทศ จะต้องใช้ผลังงานได้มากกว่าหนึ่งรูปแบบ และต้องเป็น รถยนต์ที่ประหยัดผลังงาน โดยต้องเป็นรถยนต์ที่ประเทศไทยผลิต เองได้ และใช้แบรนเนม ของไทยบ้างเป็นการ ผูกขาดโดยเน้นคุณภาพต้องดีกว่าภาคเองชน ซึ่งภาครัฐต้องทำให้ได้เป็นตัวอย่าง ประเทศไทยจะได้ชื่นหน้าชูตา ได้ว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีรถยนต์คุณภาพดีผลิตได้เอง และใช่เองภายในประเทศ ซึ่งต่อไป สามารถใช่ได้กับรถยนต์โดยสาร (แท็กซี่)จะเห็นตัวอย่างเช่นประเทศอังกฤษเป็นต้น ประเทศไทยสามารถทำได้อีกมาก แต่จะได้หรือไม่อยู่ที่ผู้บริหารบ้านเมือง มีวิสัยทัศน์กันอย่างไร มีความกล้ากันแค่ไหน ที่จะกระทำกันอย่างจริงจัง ไม่ได้ทำแล้วให้เด็กรุ่นหลังมาด่าตามหลัง ดังโครงการโกงกินเกินมาตรฐาน จนกลายเป็นมหาศิลปะการโกง ที่โผล่กลางกรุงที่เห็นได้ตามชาญชลารถไฟแถวๆดอนเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: