วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เบื่อคำว่า"กว่า"


โอโหไอ้นี้นี่มันทำงานอะไรของมันรวยเอ้ารวยเอา พวกเราทำสวนแทบตายเหนื่อยกว่าแล้วยังจนกว่าไอ้หมอนี่อีกทำมาตั้งนานยังไม่มีอะไรเท่ามันเลย มันมีบ้านมีรถแล้ว เรายังเช่าที่สวนทำงานอยู่เลยเมื่อไรจะรวยกะเขาสะทีล่ะพี่ผมเบื่อเต็มทนแล้ว

ในสังคมมีผู้คนที่หลากหลายอาชีพ มีความคิดที่แตกต่างมากมาย ทั้งผู้มีความคิดว่าไม่มีใครที่จะเหนือข้านี้ไปได้ หรือ กลุ่มของข้าปัญญาชนสุด ความคิดของพวกข้าดีกว่า การตัดสินใจแบบพวกข้าได้ประโยชน์เหนือกว่า ข้านั้นเรียนมามากกว่าต้องมีความคิดที่ดีกว่าเป็นคนที่ดีกว่าเป็นคนที่สูงกว่า ทำงานที่มีหน้ามีตามากกว่า พวก เรียนน้อยกว่า เงินน้อยกว่า ต้องมีความคิดต่ำกว่า ก็เพราะระดับความรู้และฐานะต่ำกว่า ท่านคิดแบบนี้หรือปล่าวครับ? ท่านว่าคนเป็นหมอนี้เก่่งไหม คำตอบว่า เก่งสิไม่เก่งจะได้เป็นหมอเหรอ ถ้าจะถามต่อไปว่า ท่านเคยเห็นคนที่เป็นหมอ ซ่อมรถยนต์ หรือ ซ่อมนาฬิกาเก่งๆซักคนไหม ? คำตอบก็คือจะบ้าเหรอ จะไปหาที่ไหนล่ะ คนเขาเป็นถึงขนาดหมอแล้ว จะมาซ่อมรถยนต์หรือ ซ่อมนาฬิกาทำบ้าอะไร คำตอบก็คือถูกครับ จะไปซ่อมหาสวรรค์วิมาณอะไรล่ะครับ เมื่อมีคนเขาเก่งในเรื่องซ่อมเขารับทำอยู่แล้ว แล้วมีคนถามต่ออีกว่าที่ท่านว่าเป็นหมอที่ว่าเก่งหน่ะมันก็ไม่ได้เก่งจริงอะดิ ถ้าเก่งจริงทำไมไม่ไปซ่อมรถยนต์เองล่ะ หรือซ่อมนาฬิกาเองก็ได้ ทำไม่ท่านต้องมาพึ่งคนซ่อมรถยนต์หรือ ช่างซ่อมนาฬิกาที่ไม่จบมัธยมปลายด้วยซ้ำล่ะครับ ก็ไม่เชิ่งถูกครับ เพราะคนเราต่างคนก็ต่างมีดีครับ ต้นไม่ใหญ่อยู่สุขได้เพราะกอหญ้า ฉันใด มนุษย์ผู้คิดว่าตัวยิ่งใหญ่จำต้องอาศัยชาวรากหญ้าด้วยเช่นกัน ฉะนั้น ก็อย่าทำอะไรในชั้นกว่าให้มากเกินไปนัก เพราะถ้าเลยกว่ามากๆ มันจะกลายเป็นระดับ และเลยระดับมันจะเป็นการเข้ายุกต์ก่อนพระพุทธศาสนา เลยจำต้องมีการแบ่งชั้นวรรณะกันเกิดขึ้น ถึงกับถอยหลังเข้าคลองกันตามระเบียบ ครับ แต่เอไม่แน่ประเทศไทยอาจจะอยู่ในยุคก่อนพุทธกาลอยู่แล้วก็เป็นได้ครับ เพราะดูๆกันแล้วประเทศเสรีประชาธิปไตยแห่งนี้ มีการแบ่งชนชั้นทางสังคมค่อยๆจะห่างมากขึ้นทุกทีครับ ปัจจุบันที่เห็นๆก็มีอยู่ 3 วรรณะคือ จนดักดาน จน และ แกล้งจน จำพวกวรรณะหลังพวกนี้คือ คือพวกลักษณะนิสัยแบบไม่รู้จักคำว่าพอ หรือไม่พอดี เพราะว่าเป็นอาการแบบพวกหลงไหลไปกับคำว่ากว่า แบบหาที่สุดมิได้ เช่น สวยกว่า รวยกว่า ดีกว่า ยิ่งใหญ่กว่า โดยมาเปรียบเทียบกับคำอีกคำคือคำว่า กู เลยเป็นคำอีกคำคือ รวยกว่ากู เก่งกว่ากู ยิ่งใหญ่กว่ากู เรื่องมันเลยไปกันใหญ่จนกลายเป็นการปัดแข้งปัดขากัน เห็นใครได้อะไรดีกว่าไม่ได้จำเป็นต้องเขามาป่วนหรือชาวบ้านเรียกว่า เสือก ทุกครั้ง
โดยการเปรียบเทียบขั้นกว่า More.........than นั้นซึ่งของบางอย่างก็ไม่สามารถที่จะวัดกันได้ เช่น สวยกว่า ท่านเอาอะไรมาวัดกันครับ ตอบ คือ ตัวตนความคิดท่านคิดเองเออเองไงว่ามันเป็นอย่างที่ท่านว่า หรือคนเขาว่าใช่ไหมครับ ก็ไอ้คำว่ากว่าต้องมานั้งทุกข์ ไขวคว้าดิ้นรน ต่อสู่เพื่อไอ้คำคำเดี่ยวคือกว่า.....แต่ว่าคำว่ากว่าก็มีให้รู้สึกให้เสียใจสุดเสียดายอยู่บ้างก็คือ..........."กว่าจะรู้ก็สายไปเสียแล้ว"
ปล...........................................................เอาไว้คิดเล่น..................................ตาแป้น

ไม่มีความคิดเห็น: